แฮนด์ส ออน เชียงใหม่ – มาเตรียมตัวสมัครเรียนปริญญาโทกัน 2 (ตอนจบ)
อ่านตอนที่ 1 ได้ ที่นี่
มาดูกันต่อเลยครับ เรื่องการค้นหาตัวเองหรือวางแผนอนาคตเราก็ดำเนินไป และพร้อมกันนั้น เราก็ควรเตรียมเอกสารไปพร้อมกันครับ เอกสารที่ต้องใช้มีประมาณนี้ครับ
1) ทรานสคริปต์ (ใบประมวลผลการศึกษา) และ ใบจบ จดหมายรับรองว่าจบ หรือ ใบแปลปริญญาบัตร – ทั้งสองอย่างนี้ หลายคนอาจมีแล้ว หากไม่มีหรือไม่แน่ใจอย่างไร สามารถขอใหม่จากมหาวิทยาลัยได้เลย มหาวิทยาลัยในประเทศไทยโดยมากแล้วจะมีเว็บไซท์ของสำนักทะเบียนซึ่งเราสามารถ ดูข้อมูลการขอเอกสาร และดูรายละเอียดการติดต่อได้ครับ ถ้าน้อง ๆ ยังไม่จบสำเร็จการศึกษาก็ขอมา 1 ฉบับก็พอครับ แล้วพอจบเรียบร้อยค่อยขอมาใหม่
เอาเป็นเอกสารตัวจริงสักอย่างละ 1 – 2 ฉบับก็น่าจะพอ โดยมาส่งเป็นไฟล์สแกนหรือเป็นสำเราไปได้ *ตรงนี้อาจต้องเช็คกับมหาวิทยาลัยที่ดูไว้สักนิดว่า ต้องการอย่างไรนะครับ
2) ผลคะแนนภาษาอังกฤษ โดยมากมักเป็นไอเอลท์ (IELTS) ถ้าสมัครเร็ว ๆ หลาย ๆ แห่งอาจบอกว่ายังไม่ต้องส่งก็ได้ แต่ถ้าดูที่ ๆ แข่งขันกันสูง ๆ หรือ รับยาก ๆ หรือ เกรดของเราพอดีหรือต่ำกว่าที่เขาต้องการสักหน่อย มีคะแนนที่ดีจะช่วยได้มาก คะแนนนี่สแกนส่งแน่นอน เพราะทางมหาวิทยาลัยสามารถจะตรวจสอบกับ IELTS ได้โดยตรง ที่สำคัญคือ ที่เราส่งไปต้องอยู่ในระดับที่เขายอมรับได้เพื่อไม่ให้เสียโอกาส
3) จดหมายจากอาจารย์และ/หรือที่ทำงาน อย่างน้อย 2 ฉบับ อันนี้ทุกแห่งต้องการครับ และเราทำเองไม่ได้ ควรตรวจสอบกับผู้ที่เราต้องการให้เขียนให้ว่า อาจจะใช้เวลาเท่าใด และเผื่อเวลาไว้ด้วย เราควรเตรียมสำเนาทรานสคริปต์และประวัติการทำงาน (เรซูเม่) ของเราไปให้ท่านเหล่านั้นใชในการประกอบการเขียบด้วย บางท่านเราไปสอบถามแล้ว อยากให้เราร่างไปให้ก็จะได้จัดการไปตามนั้น ครับ
จดหมายควรเป็นกระดาษที่มีหัวกระดาษขององค์กรด้วยครับ พร้อมลายเซ็นจริง ๆ หลาย ๆ แห่งจะมีตราประทับของภาควิชาหรือคณะด้วยก็ได้ครับ
4) ประวัติการทำงาน หรือ เรซูเม่ อันนี้ช่วยในการกรอกข้อมูลให้รวดเร็วถูกต้องยิ่งขึ้นครับ ไม่ต้องมานึกย้อนกันบ่อย ๆ คนที่ค่อยช่วยตรวจทานก็สะดวกครับ
5) SOP Statement of Purpose หรือความเรียงประมาณหนึ่งหน้าเกี่ยวกับตัวเราครับ อาจกล่าวถึงแรงจูงใจ เรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวข้อง หรือ บางอย่างที่น่าสนใจ เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้อยู่ในทรานสคริปต์ หรือ ประวัติการทำงาน ไม่ต้องยาวมาก ๆ ครับ สัก หนึ่งหน้าถึงหน้าครึ่งก็พอ เขียนแล้วไม่แน่ใจอย่างไร เอามาดูกันได้ ตรวจแก้ให้ฟรี ๆ ครับ ถ้าไม่รู้จะเริ่มอย่างไร มาร่วมเวิร์คช็อปกับเราเลยครับ
6) หน้าหนังสือเดินทาง เราจะเริ่มเรียนกันปี 2012 และจบปลายปี 2013 คนที่เรียนน่าจะได้วีซ่าถึงต้นปี 2014 ครับ ของใครหมดก่อนหน้านั้น ไปทำใหม่เลยก็ดีครับ
เดี๋ยวนี้หลาย ๆ มหาวิทยาลัยต้องการสำเนาหน้าหนังสือเดินทางเลยตั้งแต่ต้นครับ ไม่อย่างนั้นไม่ยอมให้สมัครกันเลยทีเดียว ถ้าอยู่ที่เชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบน ติดต่อได้ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนาได้เลยครับ ภาคเหนือตอนล่าง ที่พิษณุโลก ส่วนที่จังหวัดอื่น ๆ ลองตรวจรายชื่อสำนักงาน หนังสือเดินทางชั่วคราวที่ใกล้ที่สุดครับ ส่วนที่กรุงเทพ ลองดูข้อมูลจากกองหนังสือเดินทางครับ มี 3 แห่งครับ ที่แจ้งวัฒนะ เซ็นทรัลบางนา และ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
7) เอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง – ถ้ามีก็ลองเอามาดูกันครับ อันที่จำเป็นเลย คือ ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล หลังจากเรียนจบ ชื่อในผลการเรียนกับหนังสือเดินทางจะไม่ตรงกัน อย่างนี้ต้องเตรียมมาครับ หรือ ถ้ามีวุฒิบัตร ประกาศนียบัตร ใบอนุญาต ใบผ่านงาน อะไรที่คิดว่าเกี่ยวข้องก็ลองเอามาดูครับ เราคงไม่ส่งเยอะมากเกินไป เพราะจะทำให้ไม่น่าสนใจ สูญเสียความสำคัญครับ
ถ้าเอกสารยังไม่ครบก็ลองทำเรื่องขอ และหากันได้ครับ นาทีนี้ (19 ธ.ค.) มหาวิทยาลัยโดยมากทยอยปิดแล้วครับ เรายังสมัครเข้าไปได้ แต่น่าจะไม่มีการดำเนินการ หรือ การตัดสินใจใด ๆ ออกมาครับ
เราสามารถสมัครโดยไม่มีคะแนนภาษาอังกฤษ หรือ มีจดหมายแนะนำเพียงฉบับเดียวก็ได้ครับ แต่ทางเราอยากให้ผู้สมัครพร้อมที่สุด อยากให้ทางมหาวิทยาลัยที่เราส่งใบสมัครไปเห็นความพร้อมของเราสูงสุด และสามารถตัดสินใจได้เลยเมื่อได้รับใบสมัครพร้อมเอกสารครับ
หากมีข้อสงสัยใด ๆ ก็สอบถามกันเข้ามาได้ครับ
เว็บที่เกี่ยวข้อง
หนังสือเดินทาง
สถานที่ให้บริการหนังสือเดินทาง
สำหรับท่านที่สนใจศึกษาต่อประเทศอังกฤษ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แฮนด์ส ออน เชียงใหม่ โดยไม่คิดค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น
แฮนด์ส ออน เอดูเคชัน คอนซัลแทนต์ – สำนักงานเชียงใหม่
8/4 ซอยจำปี ถนนศิริมังคลาจารย์
ตำบล สุเทพ อำเภอ เมือง
เชียงใหม่ 50200
ประเทศไทย
อีเมล์ chiangmai@hands-on.co.th
โทร. +66 (0) 89 217 5454
โทร. +66 (053) 289 114
เว็บ
http://www.hands-on.co.th
http://www.hands-on.co.th/chiangmai
และ
gotostudyUK.com
บริการของเราไม่คิดค่าใช้จ่าย