11 เหตุผลที่ MBA ดีกว่า CFA
1. มีเพื่อนเรียน สร้างเครือข่ายได้ดีกว่า
จากการที่ MBA เป็นคอร์สที่เปิดกว้างมากกว่า และมีการทำงานร่วมกัน ใช้เวลาร่วมกัน ทำให้มีการสร้างเครือข่ายของคนรู้จักที่ดีกว่ามาก รู้จักคนหลากหลายประเภท
2. มีเครือข่ายศิษย์เก่าคอยรองรับ
แม้ว่า CFA จะพยายามปรับปรุงในส่วนนี้ แต่ว่า MBA ยังมีฐานศิษย์เก่าที่กว้างขวางกว่า สนิทแน่นแฟ้นกันมากกว่า เพราะ Business School เหล่านี้ตั้งกันมาที่ละหลายสิบปี และยังมีเครือข่ายของศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ที่ไม่เรียนบริหารธุรกิจอีกด้วยครับ ยิ่งปัจจุบันนี้ มันยังหมายถึงเครือข่ายของศิษย์เก่าที่มีความเป็นนานาชาติด้วย
3. ทำงานได้หลากหลายวงการ/อุตสาหกรรมมากกว่า
แม้ว่าตอนเรียน เราจะได้เรียนเจาะถึงทักษะเฉพาะทางมากกว่า แต่การเรียน MBA นั้นยังมีความรู้พื้นฐานธุรกิจทุกด้านและให้ภาพองค์รวมด้วย วุฒิ MBA จึงเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเริ่มงานได้ในหลายธุรกิจที่หลากหลายมากกว่า CFA
4. มีสมดุลย์งานและชีวิตส่วนตัวที่ดีกว่า
แน่นอนว่า คนจำนวนหนึ่งเรียน MBA เป็น part-time พร้อมกับทำงานไปด้วย ซึ่งนั้นอาจจะหนักหนา และทำให้ไม่มีเวลา แต่คนที่เรียน CFA ก็เป็นอย่างนี้ตลอด ส่วนคนที่สามารถลาออกมาเรียนเต็มเวลาก็ดูเหมือนว่าจะมีความสุขกับการเรียน เพื่อนใหม่และชีวิตนักศึกษาอีกครั้งหนึ่ง
5. เป็นที่รู้จัก หรือ “ฮิต” มากกว่า
คนที่รู้จัก CFA ก็เป็นส่วนน้อย คือ บางส่วนในธุรกิจการเงิน ขณะที่ MBA เป็นที่รู้จักและยอมรับกันในวงกว้างมากกว่า ในเกือบทุกวงการธุรกิจอุตสาหกรรม
6. มี “พี่เลี้ยง” หรือ “ที่ปรึกษา” ที่ดีกว่า
ทุก Business School ชั้นนำจะมีคณาจารย์ผู้สอน อาจารย์ที่ปรึกษา เจ้าหน้าที่ด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน ด้านอาชีพ นอกจากนี้ ยังมีการจัดอีเวนท์ต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อม เช่น การบรรยายพิเศษของศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ ผู้ที่มีความสามารถของวงการนั้น ๆ คนดัง การให้คำแนะนำการสัมภาษณ์งาน การเตรียมประวัติการทำงาน การจัดนายจ้างมาสัมภาษณ์งานถึงที่ เป็นต้น
ขณะที่ CFA ต้องลุยเองทุกอย่าง ไม่มีตัวช่วย
7. ดีกว่าในการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และการทดลองใหม่ ๆ
CFA มีเนื้อหาเพื่อมุ่งเป็นนักวิเคราะห์ทางการเงินอย่างเดียวเท่านั้น ขณะที่ MBA มีเนื้อหาครอบคลุมกว่ามาก ๆ เป็นโอกาสให้ผู้เรียนสามารถค้นหา ค้นคว้า สิ่งต่า ๆ หรือ ทักษะใหม่ ๆ ได้
8. ดีกว่าในการเสริมสร้าง การริเริ่มธุรกิจใหม่ของตัวเอง
ถ้าคุณอยากมีธุรกิจของตัวเอง MBA เหมาะกว่า CFA ด้วยประการทั้งปวง MBA เปิดโอกาสให้ผู้เรียนค้นหาตัวเอง ทักษะและโอกาศต่าง ๆ มากกว่า และมีทรัพยากรให้พัฒนามากกว่า (ดูตัวอย่างเช่น MBA Entrepreneurship, University of Nottingham)
9. จบตรงเวลามากกว่า และน่าจะใช้เวลาน้อยกว่าโดยเฉลี่ย
แม้ว่าตามโครงสร้าง CFA คาดหวังให้ใช้เวลาประมาณ 300 ชั่วโมงในการศึกษา หรือประมาณ 6 เดือน แต่จริง ๆ แล้วจะใช้เวลากันประมาณ 2.5 – 3 ปี และถ้าผ่านทุกครั้งที่สอบอาจจะเป็น 2 ปีเต็มที่ CFA ระดับ 1 เปิดสอบปีละ 2 ครั้ง คือเดือน มิถุนายน และธันวาคม ส่วนระดับ 2 และ 3 เปิดปีละ 1 ครั้งตอนเดือนมิถุนายน ถ้าสอบไม่ได้ แปลว่า รอลงสอบรอบใหม่ (ดูตารางเวลาสอบ CFA)
ขณะที่ MBA ในอังกฤษโดยมากร้อยละ 90 ใช้เวลา 12 เดือน (Manchester 18 เดือน) ต่อให้รวมเรียนภาษาอังกฤษก่อนเข้า 3 – 4 เดือนก็ยังอยู่แค่ที่ 15 – 16 เดือนเท่านั้น
10. ช่วยให้คุณเริ่มงานในแวดวงธุรกิจใหม่ ๆ ได้
ถ้าใครอยากเปลี่ยนสายงาน การไปเรียน MBA พร้อมกับพัฒนาทักษะบางประการ เพิ่มพูนความรู้ในธุรกิจนั้น ๆ ก็จะช่วยให้บริษัทและบริษัทหางานประเมินเราได้ดีขึ้นในการไปเริ่มงานในสายใหม่
11. “สนุก” กว่าเยอะ
เพราะว่า MBA เป็นการไปเรียนจริง ๆ คุณจะได้มีเพื่อนใหม่ ๆ เห็นสิ่งใหม่ ๆ ต่าง และยังมีชีวิตสังคม ไปงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ หลายคนได้พอเจอคบหากับคนรู้ใจใหม่ ๆ อีกด้วย ส่วน CFA นั้นเป็นการศึกษาด้วยตนเอง เดาไว้ได้ว่า คงไม่ได้พบอะไรใหม่ในทางสังคม
อ้างอิง
http://www.businessinsider.com/getting-an-mba-better-than-getting-a-cfa-2013-5?op=1
หน้าที่เกี่ยวข้อง
11 เหตุผลที่ CFA ดีกว่า MBA
*****หากน้อง ๆ ท่านใดสนใจศึกษาต่อประเทศอังกฤษ สอบถามเพิ่มเติมเรื่องทุน สมัครเรียน สามารถมาติดต่อสอบถามได้ที่ Hands On – Chiang Mai เนื่องจากเราเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการค่ะ โดยสามารถมาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมตัว และสมัครเรียนได้ที่นี่ โดยไม่คิดค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ
แฮนด์ส ออน เอดูเคชัน คอนซัลแทนต์ – สำนักงานเชียงใหม่
ที่อยู่ติดต่อ
8/4 ซอยจำปี ถนนศิริมังคลาจารย์
ตำบล สุเทพ อำเภอ เมือง
เชียงใหม่ 50200
ประเทศไทย
อีเมล์ chiangmai@hands-on.co.th
โทร. +66 (0) 89 217 5454
โทร. +66 (053) 289 114
เว็บ
http://www.hands-on.co.th
http://www.hands-on.co.th/chiangmai
http://www.facebook.com/handsonchiangmai
และ
gotostudyUK.com